ปัจจุบันผู้หญิงสมัยใหม่นิยมทำอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานนอกบ้าน หรือแม้กระทั่งงานช่าง เพราะเครื่องมือช่างในปัจจุบันมีขนาดเล็กลง ใช้งานง่าย ไม่ต้องเรียกช่าง ให้วุ่นวาย เพราะงานซ่อมเล็กๆ น้อยๆ ก็มีสูตรมีวิธีที่สามารถลองซ่อมแซมบ้านเองก่อนได้ วันนี้ SC Asset จะพาทุกคน มาทำความเข้าใจกับงานช่างง่าย ๆ ในบ้านอย่างการซ่อมแซมและดูแลห้องสุขภัณฑ์ ในบ้านแบบไม่ต้องพึ่งช่างคนใดเลย
1. จัดการกับฝักบัวที่น้ำไหลช้า
การที่ฝักบัวของคุณมีปัญหา เริ่มแรกอาจต้องเช็คก่อนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจะใช้วิธีไหน ในการจัดการ ระหว่างการใช้วิธีทำความสะอาดตรงฝาฝักบัว และการเปลี่ยนสายฝักบัวใหม่
หากคุณเลือกใช้วิธีทำความสะอาด คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการด้วยการแกะแผ่นกรองน้ำ ขนาดเล็กที่อยู่ภายในฝักบัวออกมาล้างทำความสะอาด ซึ่งแผ่นกรองที่ว่านี้จะอยู่ใกล้ระหว่าง ข้อต่อของหัวฝักบัวและท่อน้ำ เมื่อนำออกมาได้แล้วให้ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มขัดเบา ๆ และล้างด้วย น้ำเปล่าเท่านั้น ห้ามขัดแรงหรือใช้น้ำยาประเภทสารเคมีเด็ดขาด
ส่วนอีกวิธีในการจัดการกับฝักบัวที่น้ำไหลช้า นั่นคือการเปลี่ยนสายฝักบัวอันใหม่ โดยจะต้อง
ปิดวาล์วน้ำก่อนจะเปลี่ยนสายฝักบัว ตามด้วยการถอดสายฝักบัวเก่าออกก่อน หลังจากนั้นให้เช็ด ทำความสะอาดคราบน้ำหยดใส่ข้อต่อกับสายฝักบัว ถ้ารู้สึกว่าสายข้อต่อหลวม ก็ใช้เทปพันเกลียว พันไว้กับข้อต่อก่อนประกอบได้ ตรวจสอบความแข็งแรงของสายฝักบัว และหัวฝักบัว โดยการไป เปิดวาล์วน้ำและทดลองใช้
2. เปลี่ยนฝารองโถสุขภัณฑ์
มาถึงการเปลี่ยนฝารองโถสุขภัณฑ์ ก่อนอื่นเราจะต้องรู้ว่าฝาชักโครกนั้นมีทั้งหมด 3 รูปแบบ คือ
ฝาแบบ O Shape, V Shape และ U Shape โดยการซื้อฝาใหม่มาเปลี่ยน ควรดูแบบโถในบ้านคุณ ให้เหมาะกับรูปแบบของชักโครกที่บ้าน เพราะหากซื้อผิดรูป อาจจะทำให้เกิดพื้นที่เหลื่อมกัน และทำให้ดูไม่สวยงาม
วิธีเปลี่ยนฝารองโถสุขภัฑ์
2.1 โดยขั้นตอนแรกให้ถอดฝาเก่าออกทั้งชุด จากนั้นทำความสะอาดพื้นที่ติดตั้งให้เรียบร้อย เช็ดถูให้แห้ง โดยเฉพาะในส่วนของจุดติดตั้งสกรู ไม่ควรมีคราบหยดน้ำ เพราะจะทำให้เกิด สนิมขึ้นบนตัวสกรูได้
2.2 ควรปรับระดับของฝาชักโครก ให้อยู่ตรงกึ่งกลางของโถ เพื่อความง่ายในการติดตั้ง ขันสกรู
สำหรับการยึดตัวฝารองนั่งชักโครกให้เข้ากับจุดติดตั้ง จงหาไขควงที่มีขนาดพอดีกับหัวสกรู ถ้าเล็กเกินไป ไม่มีแรงพอที่จะขันสกรูให้ติดแน่นได้ สำหรับการขันสกรูเพื่อการติดตั้ง จะหมุนไขควงไปตามเข็มนาฬิกา
2.3 ติดตั้งขันให้แน่นที่สุด ตรวจสอบด้วยการขยับฝารองนั่งชักโครก ถ้ายังขยับได้อยู่ แสดงว่ายัง ขันสกรูไม่เข้าที่ ให้บิดสกรูจนแน่น เมื่อฝารองชักโครกแน่นตามที่มันควรจะเป็น เท่านี้ก็เรียบร้อย
3. เปลี่ยนสายฉีดชำระที่เก่าเขรอะ
ปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยครั้งภายในห้องน้ำก็คือ หัวฉีดหรือสายฉีดชำระรั่วซึม ซึ่งเกิดจากการใช้ งานที่ไม่ระมัดระวัง ตกกระแทกพื้นบ่อยๆ ทําให้เกิดรอยร้าวที่ก้านฉีดน้ำ น้ำจึงรั่วหรือหยดออกมา หรืออาจเกิดจากการใช้งานมานาน
วิธีการเปลี่ยนสานฉีดชำระ
3.1 ขั้นตอนแรกในการแก้ไขก็คือ ควรเช็กดูว่าส่วนใดของสายฉีดชำระนั้นใช้งานไม่ได้บ้าง จากนั้นค่อยไปเลือกซื้ออุปกรณ์ชิ้นนั้นมาเปลี่ยนใหม่ โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ ก่อสร้างทั่วไป
3.2 แนะนำว่าควรเลือกใช้ ‘สายฉีดชำระ ที่หัวชำระเป็นเหล็กเคลือบด้วยโครเมียม’ เพราะนอกจาก จะให้ความแข็งแรง ทนทานกว่าหัวชำระแบบอื่นๆ แล้ว ยังช่วยป้องกันสนิมได้ดีกว่าด้วยและ ควรเลือกสายยางแบบที่หุ้มด้วยเส้นโลหะถัก ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาเรื่องสายยางหักงอได้
3.3 สุดท้ายคือตัวสต๊อปวาล์วที่ส่วนใหญ่มักติดตั้งไว้บริเวณใต้ชักโครก เพื่อซ่อนจากสายตา การเลือกสต๊อปวาล์วจึงควรเลือกแบบที่หัวบิดเปิด-ปิดง่าย และแยกออกมาจากชักโครกเพื่อความ สะดวกในการใช้งานและการซ่อมแซมในครั้งหน้า ก่อนเปลี่ยนหัวฉีดหรือสายฉีดชำระอันใหม่ อย่าลืมหมุนปิดสต๊อปวาล์ว เพื่อหยุดการไหลของน้ำก่อน จากนั้นหมุนถอดสายชำระเก่าออก หลังจากนั้นนำหัวฉีดชำระอันใหม่ ใส่เข้ากับสายฉีดชำระ อย่าลืมใส่ยางกลมๆ หรือยางปะเก็น เข้าไปด้วย เพื่อป้องกันเศษ เศษอิจ ทราย ตะไคร่ต่าง ๆ ที่จะทำให้กลไกของหัวฉีดทำงาน ไม่มีประสิทธิภาพ
3.4 ขั้นตอนสุดท้าย ให้หมุนเปิดสต๊อปวาล์วในระดับแรงดันและปริมาตรน้ำให้พอดีกับการใช้งานของเราก็เป็นอัน เสร็จเรียบร้อย
ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เรื่องของงานซ่อมและงานเปลี่ยนในบ้าน ไม่จำเป็นที่จะต้ องใช้คุณผู้ชายเสมอไป เหมือนดั่งบทความวันนี้ที่ SC Asset ได้เอาเทคนิคในการซ่อมแซมอุปกรณ์ ในบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝาก หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับแม่บ้านฝึกหัดทุกท่าน