หนังเป็นวัสดุที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งห้องต่างๆ ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโซฟา เก้าอี้ หัวเตียง ฯลฯ ซึ่งนอกจากจะเป็นวัสดุที่คงทนและมีสีสัน warm สวยงามแล้ว ยังดูเป็นธรรมชาติ ไม่สะสมความร้อน และไม่กักเก็บฝุ่นไว้ที่ผิวด้วย แต่อย่างไรก็ตามก็ควรดูแลทำความสะอาดให้ถูกวิธีและดูแลรักษาให้ถูกต้อง เพื่อยืดอายุการใช้งานไปนานๆ SC Asset รวบเคล็ดลับมาเล่าสู่กันฟังดังนี้ครับ
หนังแท้-หนังเทียม ต่างกันอย่างไร
หนังแท้ในเฟอร์นิเจอร์ส่วนมากจะทำจากหนังวัว ซึ่งให้สัมผัสที่นุ่มกว่าหนังเทียม ระบายอากาศได้ดี มีอายุการใช้งานที่นานเป็น 10 ปี แต่ก็จะมีวิธีการดูแลรักษาที่เฉพาะตัว เพราะหนังแท้ก็แบ่งเป็นอีกหลายประเภท เช่น หนังขัดเงา หนังกลับ หนักฟอก หรือหนังที่มีขน
ส่วนหนังเทียมเป็นหนังที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ประเภทพลาสติก เช่น PU เป็นต้น โดยคุณสมบัติก็จะตรงข้ามกับหนังแท้ คือ ทำความสะอาดง่ายกว่าเพราะเป็นพลาสติก แต่ก็ทนทานน้อยกว่า ระบายอากาศได้ไม่ดี และราคาถูกกว่าหนังแท้
วิธีการทำความสะอาด
- ไม่ใช่สารเคมีขัดไม่ใช้สารเคมีใดๆ ทั้งน้ำยาขัดเงาหรือน้ำยาที่มีฤทธิ์กรด ต่อทั้งหนังแท้และหนังเทียม เพราะจะไปทำลายผิวนอกของหนังทำให้สารเคลือบหลุดลอกออกไป สำหรับหนังแท้ให้ใช้น้ำยาขัดหนังแท้โดยเฉพาะ
2. ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น บิดให้หมาดจนมั่นใจว่าแห้งสนิท เพื่อไม่ทำให้หนังแท้เปียก แล้วเช็ดทำความสะอาด 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ยิ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้บ่อย ก็ควรทำความสะอาดบ่อย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและทำให้เฟอร์นิเจอร์หนังแท้ ยังสวยและดูใหม่อยู่เสมอ สำหรับหนังเทียมก็สามารถใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เช่นได้อยู่เรื่อยๆ เช่นกัน
3. หากเกิดคราบกับหนังแท้ควรทำความสะอาดทันทีเพื่อไม่ให้ทิ้งรอย หากต้องขัดคราบให้ใช้แปรงขนนุ่มเท่านั้น ไม่เช่นนั้น วัสดุของแปรงจะไปขัดเอาเนื้อหนัง หรือสิ่งเคลือบให้หลุดออกมาได้
ข้อแนะนำ
- ไม่วางเฟอร์นิเจอร์หนังแท้และเทียมใกล้กับที่ร้อนที่แดดส่องตลอดเวลา เพราะจะทำให้หนังแห้งและเกิดรอยแตกและขาดได้
- และก็ไม่ควรวางเฟอร์นิเจอร์หนังแท้ไว้ใกล้ๆ ที่ชื้นๆ เช่นกัน เพราะก็จะทำให้หนังชื้นและแตกในที่สุด
- สำหรับหนังแท้ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ Leather Conditioner บำรุงผิวหนังบ้าง 2 เดือนครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหนังแท้หรือหนังเทียม หากบำรุงรักษาดีๆ ทำความสะอาดเรื่อยๆ ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดของคุณให้ยาวนานขึ้นได้ไม่ยาก