ช่วงนี้มีนโยบายลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยจากทางรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัย ดังนั้นใครที่กำลังเล็งๆ บ้านเดี่ยว หรือ คอนโด ไว้อยู่ นี่คือช่วงเวลาสุดคุ้มค่าในการซื้ออสังหาริมทรัพท์ ดังนั้น SC Asset จึงลิสต์สิ่งต้องเตรียมก่อนการกู้ซื้อบ้าน มาเล่าสู่กันฟัง

1.เตรียมตัว กู้ซื้อบ้าน
ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการกู้และการผ่อนจริงๆ ควรเตรียมตัวก่อนว่าตัวคุณเองมีความสามารถในการผ่อน เดือนละกี่บาท และควรที่จะเลือกบ้านหรือคอนโดในช่วงราคาเท่าไหร่ เพื่อให้เหมาะกับความสามารถใน การผ่อนชำระ โดยตามหลักแล้วภาระหนี้ทุกประเภทในแต่ละเดือนควรจะมีสูงสุดไม่เกิน 40% ของรายได้ ในกรณีไม่มีภาระหนี้ใดๆเลย สามารถใช้สูตรคำนวนวงเงินกู้คร่าวๆ ได้ดังนี้
(รายได้ต่อเดือน) x ( 60 เท่าของรายได้) = (ราคาบ้านที่กู้ซื้อได้)
ตัวอย่างเช่น รายได้ 40,000 บาทต่อเดือน x 60 = 2,400,000 บาท
ตัวเลขนี้ นับเป็นขั้นต่ำของวงเงินที่จะกู้ได้ซึ่งวงเงินนี้หมายความว่าต้องไม่มีภาระหนี้ใดๆ เลย เช่น ค่าบัตรเครดิต หรือค่าผ่อนรถยนต์ เป็นต้น
เมื่อรู้ว่าตัวเองมีกำลังกู้เท่าไหร่ หรือเคลียร์ว่ามีภาระหนี้อื่นๆอยู่หรือไม่ จะได้เตรียมตัวเลือกซื้อบ้านเดี่ยว หรือคอนโดได้ตรงกับความสามารถในการผ่อนของเราได้

2.เตรียมเงินกู้ซื้อบ้าน
การกู้ซื้อบ้าน แม้จะได้วงเงิน 100% หรือ 110% ก็ต้องเตรียมเงินก้อนเอาไว้ใช้สำหรับทำสัญญา และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น
- ค่าจองและทำสัญญา (ค่ามัดจำ)
- เงินดาวน์ อาจจะแล้วแต่สัญญากับธนาคาร เงินดาวน์มีตั้งแต่ 5% – 10% ของราคาบ้าน
- ค่าประเมินราคาเมื่อขอสินเชื่อกับธนาคาร จะมีราคาประมาณ 1,000 – 3,000 บาท
- ค่าจดจำนอง คือค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนกับกรมที่ดิน ซึ่งคิดเป็น 1% ของวงเงินจำนอง หรือราว 1% ของยอดกู้ (กรณีที่ขอสินเชื่อกับธนาคาร)
- ค่าโอนกรรมสิทธิ์ จะจ่ายให้กับกรมที่ดิน โดยกรมที่ดินคิดค่าจดทะเบียนสิทธิ 2% จากราคาประเมิน และสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ผู้ซื้อกับผู้ขายควรตกลงว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
- ค่าเบี้ยประกันภัยบ้านจะอยู่ในช่วง 1,000 บาทขึ้นไปต่อปี
- ค่าส่วนกลาง บางแห่งอาจจะต้องจ่ายเลย
- ค่าเฟอร์นิเจอร์ และการตกแต่งบ้าน
ซึ่งปัจจุบันมีนโยบายของรัฐที่ช่วยลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย หากซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทโดยมีมาตรการลดค่าโอน 2% และจดจำนอง 1% รวมเป็น 3% ลดเหลือ 0.01% มีความหมายเท่ากับค่าใช้จ่ายภาษีโอนและจำนองล้านละ 30,000 บาท เหลือล้านละ 300 บาท

3.เตรียมเลือกบ้าน
ดูรีวิว ดูรายละเอียดในเว็บไซต์ แต่จะดีที่สุดต้องไปดูที่ทำเลจริง โลเคชั่นจริง จะได้เห็นภาพว่าจะใช้ชีวิตในบ้าน หลังนี้อย่างไร
เข้าไปดูบ้านที่ทำเลต่างๆ และฟังก์ชั่นของบ้านแบบครบๆ จาก SC Asset ได้ทาง www.scasset.com

4.เตรียมเอกสาร
เอกสารขอสินเชื่อบ้านประกอบไปด้วย 3 หมวดหลัก ได้แก่ เอกสารส่วนบุคคล เอกสารการเงินหรือแสดง ที่มารายได้ และเอกสารหลักประกัน
เอกสารส่วนบุคคล
- บัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
- สำเนาเปลี่ยนชื่อ -นามสกุล (ถ้ามี)
เอกสารทางการเงิน
ถ้าเป็นพนักงานประจำ ใช้ใบรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือน หรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน และสำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
สำหรับฟรีแลนซ์ (ผู้ประกอบอาชีพอิสระ) ใช้สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน/หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมเอกสารฉบับจริง), สำเนาทะเบียนการค้า/ ทะเบียนบริษัท/ ห้างหุ้นส่วน, หลักฐานการเสียภาษีเงินได้, รูปถ่ายกิจการ และสำเนาใบประกอบวิชาชีพ
เอกสารหลักประกัน
- สำเนาจะซื้อจะขาย / สัญญาวางมัดจำ / สัญญาเช่าซื้อการเคหะฯ และหนังสือรับรองยอดคงเหลือ
- หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคาร
- สำเนาโฉนดที่ดิน / นส.3ก / หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด / อช.2 ทุกหน้า
- ใบอนุญาตปลูกสร้าง / ต่อเติม
- แบบแปลน
- ใบประมาณการปลูกสร้าง / สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง
เมื่อเตรียมตัวเตรียมเงินเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้วก็ยื่นกู้กับธนาคารได้เลยซึ่งเราก็ขอแนะนำให้ยื่นกู้กับหลายๆธนาคารเพื่อนำข้อมูลมาเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและวงเงินในการกู้ว่าธนาคารแห่งไหนให้สิ่งที่ดีที่สุดและตอบโจทย์คุณที่สุด
Leave a Reply