อัปเดต ! 7 เทรนด์สีมาแรงปี 2023 ที่จะทำให้บ้านคุณโดดเด่นยิ่งขึ้น

“แค่ทาสีก็เหมือนได้บ้านใหม่ !” ประโยคนี้ไม่เคยเกินจริง

สีมีสำคัญอย่างมากต่อการออกแบบบ้าน เพราะสามารถนำเสนอความเป็นตัวตน สื่ออารมณ์ของเจ้าของบ้าน และบรรยากาศโดยรวมของห้อง ๆ นั้นได้อย่างดี เรียกได้ว่าใครที่รู้สึกเบื่อ หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศให้บ้านของคุณ แค่เปลี่ยนสีของผนัง, วอลล์เปเปอร์ หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากเดิมแล้วครับ (อ่านเทคนิคเพิ่มเติม : แต่งบ้านให้ชิค ด้วยทริคจับคู่สีเฟอร์นิเจอร์)

SC Sunblog ขอแนะนำคนที่กำลังมองหาไอเดียแต่งบ้านใหม่ ด้วย 7 เทรนด์สีประจำปี 2023 อันเปี่ยมไปด้วยความหมายของการมองโลกในแง่ดี และมีความหวังที่สะท้อนความเป็นปี 2023 ได้อย่างลงตัว แต่ยังคงมีความคลาสสิก และอยู่กับบ้านของคุณตลอดไปอย่างไม่ตกยุคกันเลยครับ

  1. Elfin Yellow (สีเหลืองอ่อน)

จากเทรนด์ความยั่งยืนที่คนให้ความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวคิด ‘Minimalism’ที่มาควบคู่กันเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน ด้วยการซื้อของใช้ต่าง ๆ ที่มีความ ‘น้อย’ ตั้งแต่การลดการบริโภค ใช้ซ้ำ ไปจนทัศนคติในการเลือกซื้อของแต่ละชิ้น ที่เน้นความยั่งยืน ใช้ได้นาน ไม่แปรผันไปตามแฟชั่น

สีเหลืองอ่อน เป็น Long-Term Color ที่ใช้ได้นาน โดยปกติแล้วสีเหลืองอ่อน ถูกเลือกจับคู่กับสีอื่น ๆ มากกว่าสีขาว เนื่องจากให้ความรู้สึกอ่อนโยน และออร์แกนิก มีความเป็นธรรมชาติแบบดั้งเดิมมากกว่า เฉดสีที่แสดงจิตวิญญาณสุนทรียะและความผูกพัน เหมาะกับการเข้าไปเติมเต็มพื้นที่ในบ้าน และของใช้ต่าง ๆ ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับการปลอบประโลม ผู้พันกับของชิ้นนั้นมากขึ้น ช่วยให้ใช้งานสิ่งของหรือพื้นที่นั้นนาน ๆ ตามแนวคิดความยั่งยืนนั่นเองครับ

2. Golden Apricot (สีส้มแอปริคอต)

ด้วยเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้หลายคนรู้สึกเหนื่อยกับการต้องวิ่งตามเทรนด์อยู่ตลอดเวลา จึงพยายามหลีกหนีความวุ่นวาย และพยายามสร้างตัวตนที่แตกต่างออกไป จึงเกิดพฤติกรรมการเสพ Nostagia หรือการโหยหาอดีต หวนคืนวัยเด็กเพื่อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งขึ้น

จึงไม่แปลกใจหาก ‘สีส้มแอปริคอต’ ซึ่งเป็นสีที่ได้รับความนิยมในยุค 80’s จะกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์สีมาแรงในปี 2023 ที่คนกำลังโหยหาอดีตอยู่ นอกจากนี้ สีส้มแอปริคอตยังสามารถสะท้อนอารมณ์ความสุข อบอุ่น และสนุกสนานในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นสีที่เหมาะกับการตกแต่งผนังห้องช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกไม่เบื่อได้ครับ

  1. Lime Green (สีเขียวมะนาว)

จากเทรนด์สีเขียวนีออนที่กำลังเป็นที่นิยมในโลกแฟชั่น เหตุผลมาจากเมื่อมองสีเขียวนีออนผ่านปริซึมจะออกมาเป็นสีรุ้ง ทำให้สีเขียวนีออนเป็นตัวแทนความ ‘หลากหลาย’ ของเพศ และชาติพันธุ์ได้เป็นอย่างดี ด้วยสีที่มีความโดดเด่น สะดุดตายังทำให้สีเขียวนีออนเป็นสีที่ได้รับความนิยมในวงการออกแบบโดยเฉพาะครีเอเตอร์ดิจิทัลอีกด้วย

จากความนิยมของสีเขียวนีออน ถูกนำมาลดทอนความเจิดจ้าลง ให้ใช้ในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น จึงเกิดเป็น ‘สีเขียวมะนาว’ ซึ่งเป็นสีที่เชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมกับการเป็นตัวแทนของ Gen Z บนโลกดิจิทัลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสดใส ซาบซ่า และสดชื่น สามารถกระตุ้นความมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง

4. Deep Lake (สีเขียวอมฟ้า)

สีเขียวมักนำมาใช้ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ การต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม ความเท่าเทียมทางเพศ การอยู่ร่วมกันระหว่างเจเนอเรชั่น ทำให้สีเขียวกลายเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่เป็นนักเคลื่อนไหว

สำหรับสีเขียวอมฟ้า เกิดจากการผสมผสานของสีน้ำตาลที่เป็นตัวแทนของเอิร์ธโทนเข้าไปให้คนทุกเพศทุกวัยสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเคยเป็นตัวแทนความกล้าของนักกีฬาในอดีต ทำให้เราจะเห็นชุดและอุปกรณ์กีฬาที่มีสีเขียวอมฟ้าอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังเป็นสีที่แสดงความเป็นพลังจากธรรมชาติที่อยู่ระหว่างสีฟ้ากับสีเขียวที่ถูกนิยมนำไปออกแบบพื้นที่บ้าน สำนักงาน และเฟอร์นิเจอร์ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางความจริงจัง ทั้งยังลึกลับและหรูหราในเวลาเดียวกัน เหมือนได้รับการบำบัดจากธรรมชาติ

  1. Scarlet Sage (สีแดงก่ำ)

สีแดงเป็นสีที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ด้วยสีสัน เปี่ยมไปด้วยพลัง และความหลงใหล ศิลปินที่มีชื่อหลายคนมักนำมาเป็นเครื่องมือสื่อสาร และสะท้อนพลังสร้างความเหนือจริง นอกจากนี้ยังเป็นสีที่ถูกใช้เชื่อมโยงกับมรดกทางความคิด และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษอีกด้วย

มีการคาดการณ์ว่าโทนสีแเดงก่ำกำลังจะกลายเป็นสีหลักในช่วงซัมเมอร์ 2023 นี้ เหมาะกับทั้งการออกแบบอาคารได้ทั้งภายนอกและภายใน เพื่อสร้างแรงดึงดูด และสะดุดตาได้อย่างดี

  1. Phlox (สีม่วงเข้ม)

เทรนด์ Metaverse ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโลกเสมือนเหนือจริงที่ถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการ

‘สีม่วง’ เป็นสีที่เป็นตัวแทนของ Metaverse จึงเป็นสีที่เป็นตัวแทนการเชื่อมโยงระหว่างดิจิทัลกับโลกแห่งจิตวิญญาณ ให้ความรู้สึกตระหนักคิด และกระตุ้นความรู้สึกได้อย่างดี

  1. Moonless Night (สีดำเทา)

สีดำเป็นโทนสีคลาสสิกที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอถือเป็นตัวแทนความลึกลับ เย้ายวน หรูหรา แต่ก็มีความหนักแน่นตรงไปตรงมาไปพร้อมกัน

สำหรับสีดำเฉด Moonless Night เป็นสีที่สามารถสื่อสารถึงพลัง และความชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงของปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่นเดียวกับความคาดหวังของ Gen Z ที่มีต่อแบรนด์ใหญ่ที่ให้เป็นกระบอกเสียง หรือแสดงจุดยืนในการเปลี่ยนแปลง เพื่อโลกที่ดีกว่าในอนาคตนั่นเองครับ

อ่านจบแล้วนอกจากจะได้เทรนด์สีใหม่ ๆ แบบไม่ตกเทรนด์แล้ว ยังไม่รับแนวความคิดฉบับปี 2023 ที่กำลังเป็นที่สนใจของสังคมอยู่ในขณะนี้ อาจทำให้เราหาความเป็นตัวตนเฉพาะตัวได้ไปพร้อมกับการได้เปลี่ยนบรรยากาศภายในบ้านไปด้วยนะครับ