SCero Mission Ep.15 : ออกแบบบ้านด้วย Green Technology เพื่อบ้านของเรา เพื่อความสุขของโลก

ภาวะโลกร้อน เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก จนทำให้ชั้นบรรยากาศของโลกเริ่มเสื่อมสภาวะ ทำให้อากาศที่เราใช้หายใจอยู่ในปัจจุบันนั้นไม่สะอาด หรือมีสิ่งแปลกปลอมที่อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจของเราได้ โดยเฉพาะในเรื่องของฝุ่น PM 2.5 และแน่นอนว่าภาวะโลกร้อนกลายเป็นภาวะวิกฤตของโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนทำให้หลายคนเริ่มตื่นตัว รวมไปถึงองค์กรต่าง ๆ ก็หันมาให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาของภาวะโลกร้อนนี้

หากพูดถึงมุมมองของบ้าน เราก็สามารถที่จะทำให้บ้านของเรานั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการออกแบบที่เหมาะสม แต่ก็ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของเราได้ ทำให้เทรนด์การออกแบบบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ เพราะจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้

ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาการสร้างบ้านรักษ์โลก (Eco-House) ลองมาทำความรู้จักกับการออกแบบบ้านด้วยเทคโนโลยีสีเขียว (Green Technology) ซึ่งเป็นการออกแบบโดยใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้บ้านมีอายุการใช้งานยาวนานและมีประสิทธิภาพ รวมถึงพื้นที่ที่ดีต่อสุขภาพ สะดวกสบาย และยืดหยุ่น จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง มาดูกัน

  1. ออกแบบบ้านโดยคิดถึงการใช้งานเป็นหลัก

การออกแบบบ้านที่สำคัญเราควรคำนึงถึงเรื่องของการใช้งานหรือประโยชน์ใช้สอยเป็นอันดับต้น ๆ อย่ามองเพียงแค่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว หากออกแบบบ้านได้ดี ใช้งานได้จริง ก็จะช่วยเราและโลกได้มาก ยกตัวอย่างเช่น เช่น การออกแบบหน้าต่าง โดยคำนึงถึงประโยชน์ทั้งเรื่องแสงและเรื่องลดความร้อนในอาคาร ตั้งแต่ต้น เพราะหากเราวางตำแหน่งหน้าต่างได้ถูกจุด บ้านและอาคารก็จะสามารถใช้แสงธรรมชาติได้ หรือการเลือกใช้กระจก 2- 3 ชั้น และอิฐมวลเบาสำหรับก่อผนังเพื่อช่วยให้บ้านเย็นขึ้น ทั้งยังช่วยกันความร้อนไม่ให้เข้ามาในตัวบ้านได้ ทำให้ลดการใช้พลังงานลง

  1. คำนึงเรื่องการรีไซเคิล

เมื่อพูดถึงเรื่องรีไซเคิล หลายคนก็คงจะรู้จักและเกิดความคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะวัสดุและอุปกรณ์บางอย่าง สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ การสร้างบ้านก็เช่นกัน ควรเลือกวัสดุที่มีระบบจัดการนำวัสดุมาใช้ซ้ำ เช่น วัสดุก่อสร้างที่ลดการใช้ทรัพยากรอย่าง ไม้เชิงชาย ที่ผลิตจากวัสดุทดแทนธรรมชาติ หรือกระเบื้องมุงหลังคาที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล จะทำให้เราสามารถบริหารจัดการในเรื่องของการจัดการขยะภายในบ้านได้นั่นเอง

  1. ให้ความสำคัญเรื่องการปลูกต้นไม้ 

อย่างที่ทราบกันดีว่าต้นไม้หลากหลายชนิดสามารถดูดซับสารพิษและช่วยกรองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้หมดไปได้ จนทำให้หลายคนนำต้นไม้ฟอกอากาศมาตกแต่งบ้านเป็นจำนวนมาก นอกจากจะทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกผ่อนคลาย ยังช่วยให้บ้านของเราดูร่มร่นและสวยงามอีกด้วย ทั้งนี้ การปลูกต้นไม้หรือนำต้นไม้มาไว้ในห้องต่างๆ เราจำเป็นจะต้องศึกษาคุณประโยชน์ให้ถี่ถ้วน เพราะต้นไม้บางประเภท อาจจะไม่เหมาะที่จะไว้ในห้องนอน เนื่องจากในช่วงเวลากลางคืน ต้นไม้เหล่านั้นอาจจะคล้ายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลง เวลาตื่นนอนอาจจะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียได้

  1. มีนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม

การออกแบบบ้านเราจะต้องคำนึงถึงในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมมาประยุกต์ภายในบ้าน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการใช้งานส่วนต่าง ๆ รวมไปถึงส่งผลดีต่อสุขภาพและภาพรวมในการใช้ชีวิตในบ้านได้ เช่น เทคโนโลยีการฟอกอากาศเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ หรือมีถังเก็บน้ำฝน เพื่อประหยัดน้ำ นำมาใช้รดน้ำต้นไม้หรือทำความสะอาดโถสุขภัณฑ์ได้ เป็นต้น

หากมองภาพรวมทั้งหมดแล้วเราจะเห็นได้ว่า การออกแบบบ้านด้วยเทคโนโลยีสีเขียว จะช่วยเราในเรื่องของการลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค อำนวยความสะดวกในเรื่องของการใช้งานฟังก์ชันห้องต่าง ๆ ได้ดี อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้คนในบ้าน กลายเป็นสารตั้งต้นแห่งความสุขเพื่อเราและเพื่อโลกอย่างยั่งยืนที่แท้จริง