เมื่อเจอปัญหา “ภาวะหมดไฟ” ควรดูแลตัวเองอย่างไร?

Burnout Syndrome หรือภาวะหมดไฟในการทำงาน เกิดขึ้นเมื่อคุณรู้สึกหมดแรง ท้อแท้ เหนื่อยทั้งกาย และใจ จากสภาวะการทำงานที่กดดัน เครียด ไม่มีเวลาพักผ่อน หรือรู้สึกด้อยค่าจากงานที่ทำ ฯลฯ ซึ่งเกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้นจึงต้องสังเกตตัวเองอยู่เสมอว่ามีอาการข้างต้นเกิดขึ้นบ้างหรือไม่และหากคุณ กำลังเผชิญกับภาวะหมดไฟอาการนี้ เรามีเทคนิคการดูแลตัวเองจากภาวะหมดไฟให้กลับมาสมดุลและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ดังนี้

จัดระเบียบชีวิต สู้ภาวะหมดไฟ

1.จัดระเบียบชีวิต ระดับความสำคัญต่างๆ

เพราะภาวะหมดไฟ การ Burnout คือการทำงานและทำทุกอย่างพร้อมๆ กัน จนรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีเวลาให้ชีวิต และไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว ดังนั้นขั้นแรกให้ลองจัดลำดับความสำคัญในชีวิตใหม่ ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต การทำงาน โดยจัดตารางการทำงานในแต่ละวันให้ชัดเจน ว่าต้องจัดการกับงานชิ้นไหนบ้าง เพื่อจะได้ไม่ต้องทำทุกชิ้นงานให้เสร็จภายในวันเดียว นอกจากนี้การจัดตารางชีวิตเพื่อตัวเองก็สำคัญเช่นกัน เช่น เวลาการออกกำลังกาย เวลาการพักผ่อน เวลาการกินข้าว ยิ่งช่วง Work From Home ทำให้ทุกกิจกรรมผสมรวมไปพร้อมๆกัน จะยิ่งทำให้คุณเครียดและกดดันมากขึ้น

ภาวะหมดไฟกับภาวะทางจิตใจ

2. จัดระเบียบทางจิตใจ

คุยกับตัวเองว่าสภาพจิตใจตอนนี้เป็นอย่างไร เบื่อ เครียด หรือไม่สนุกกับสิ่งที่ทำอยู่หรือเปล่า ลิสต์ออกมาใส่กระดาษให้เห็นเป็นข้อๆ ว่าตัวเองกำลังเจอกับความคิดแบบไหนแต่อะไรคือสิ่งที่ตัวเอง ต้องการจริงๆ เช่น Burnout เกิดภาวะหมดไฟจนไม่ได้ดูแลร่างกายตัวเอง สุขภาพไม่แข็งแรงก็หมายความว่าควรลอง ปรับในด้านนี้ แล้วดูว่าส่งผลต่อประสิทธภาพในการทำงานหรือช่วยลดความเครียดในชีวิตหรือไม่

ลดการใช้สื่อออนไลน์ ลดภาวะหมดไฟ

3. ลดการเสพสื่อออนไลน์ ลดหน้าจอลง

ภาวะหมดไฟ หนึ่งในความเครียดของคนยุคปัจจุบันคือข่าวสารที่ไหลอยู่เต็มหน้าจอสมาร์ทโฟนหรือโน๊ตบุ๊คของเรา ดังนั้นลอง Logout  ออกจากโซเชียลมีเดียที่ใช้ประจำ ลดการจ้องหน้าจอเป็นเวลาทำงาน หาการพักผ่อนด้วยวิธีอื่นๆ เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ชงกาแฟ ออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ ฯลฯ หรือแม้แต่การออกนอกบ้านไปนั่งเล่นกันเพื่อน ก็ช่วยสร้างสมดุลใหม่ๆ ให้ชีวิตแล้ว 

4. ปรับทัศนะคติในการทำงาน

ทบทวนตัวเองว่าตัวเองทำงานอย่างไร มีความสุขในอะไร ทำงานแบบไหนได้ดี มีปัญหาอะไรในการทำงาน ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะหมดไฟ หรือไม่เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น จากความเครียดก็มองให้เป็นโอกาสหรือชาแลนจน์ใหม่ๆ ในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง

5. พักผ่อนให้เพียงพอ

การพักผ่อนนอนหลับช่วยฟื้นฟูร่างกายและปรับสมดุลฮอร์โมนต่างๆ ให้ดีขึ้นได้จริง และเป็นรูปธรรมที่สุด

ปรึกษาภาวะหมดไฟกับคนใกล้ชิด

6. พูดคุยปรึกษาระบายกับคนใกล้ชิด

หากพบว่าไม่ไหวกับภาวะหมดไฟ (Burnout) ควรหาคนใกล้ชิด คุยกับเพื่อน ระบายความในใจออกมาเพราะการพูด ออกมาก็ช่วยทำให้คุณโล่งใจมากขึ้น และบางครั้งอาจได้ความคิดเห็นที่ดีจากมุมมองอื่นๆ กลับมาด้วย 

ภาวะ Burnout เป็นภาวะที่หลายคนกำลังพบเจอและพยายามต่อสู่ ท่ามกลางข่าวสาร ความคิดเห็นของโลกที่บอกให้เราเก่งกว่านี้ รู้รอบกว่านี้ และพัฒนามากกว่านี้ ดังนั้นเมื่อฉุกคิดว่าตัวเองกำลังเจอกับภาวะนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการปรับชีวิตของตัวเองเสียใหม่ ดูแลตัวเองและจิตใจของตัวเองให้เข้มแข็งขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง