เพิ่มความสวยงามให้กับสนามหน้าบ้าน ด้วยการเลือกหญ้าให้ถูกประเภท

หญ้าประเภทหญ้า

เชื่อว่ามีหลายคนที่มีความฝันอยากเป็นเจ้าของบ้านที่มีสนามหญ้าเล็กๆ เป็นของตัวเอง โดยเฉพาะคนที่เพิ่งซื้อบ้านใหม่หรือกำลังปลูกบ้านใหม่ แต่การจะปลูกหญ้าและดูแลรักษาสนามหญ้าให้สวยงาม ภายใต้สภาพอากาศที่แปรปรวนคาดเดาไม่ได้ตลอดทั้งปีแบบบ้านเรานั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ดังนั้นหากต้องการให้สนามหน้าบ้านของคุณดูสวย เขียวขจีอยู่เสมอ จึงจำเป็นต้องดูแลรักษาด้วยความเข้าใจ

วันนี้เราจึงชวนคุณมาศึกษาความลึกซึ้งของหญ้าปูสนามยอดนิยมทั้ง 5 สายพันธุ์ รวมถึงวิธีการเลือกชนิดของหญ้า วิธีปลูกอย่างเหมาะสม และการรักษาสนามหญ้าให้คงความสวยสดชื่นไว้ได้นานเท่านาน จะมีอะไรบ้างนั้นต้องตามไปดู

ปูหญ้าสนามหน้าบ้าน

เลือกประเภทของหญ้าปูสนามให้เหมาะสม

    1. หญ้าไทเป (Broadleaf Carpet Grass) มองผิวเผินด้วยตาอาจคล้ายกับหญ้ามาเลเซียมากๆ จนถูกเรียกอีกชื่อว่าหญ้ามาเลเซียแคระ ลำต้นกลวงเป็นข้อปล้องและเลื้อยอยู่ใต้ดิน จะโผล่ขึ้นมาด้านบนผิวดินแค่เพียงใบที่แผ่เลียดไปด้านข้างตามพื้น ความสูงตั้งแต่ 4-30 เซนติเมตร เติบโตอย่างช้าๆ ทำให้ดูไม่สูงจึงไม่ต้องตัดแต่งบ่อยนัก ช่วงแรกของการปลูกอาจต้องรดน้ำเช้าเย็น แต่หากรากและลำต้นขยายจนเต็มพื้นที่แล้วจะมีความหนาแน่นมาก รดน้ำเพียงสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ
หญ้าไทเปขยายพันธุ์ได้โดยการแตกกอ เข้ากันได้กับดินทุกสภาพ ไม่ว่าจะเป็นดินร่วน หรือดินเหนียวที่เฉอะแฉะ เว้นก็แต่ดินเค็มและดินเปรี้ยว ปลูกได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง โดยหากปลูกในร่มอาจทำให้สัมผัสที่ได้ไม่เรียบนัก เนื่องจากการกระจุกตัวของข้อปล้องที่อัดอยู่ใต้ดิน แต่หากปลูกไว้กลางแจ้งลำต้นและใบจะกระจายตัวได้ดีและให้สัมผัสที่นุ่มนวลกว่า จึงมักได้รับความนิยมนำมาปลูกบริเวณลานบ้าน

2. หญ้าญี่ปุ่น (Japanese Lawn Grass) ในบ้านเรานิยมปลูกชนิดใบกลมเนื่องจากขนาดใบที่เล็กและมีความละเอียดสูง ไม่มีขน และออกดอกเป็นช่อสั้นๆ ลำต้นเลื้อยแผ่ไปตามหน้าดิน แม้จะโตช้าแต่หากได้โอกาสขยายอย่างเต็มที่แล้วจะมีความหนาแน่นมาก ทนต่อแรงเหยียบย่ำได้ดีจึงนิยมปลูกบนลานสวนหย่อม หรือปลูกแซมไปตามช่องว่างบนลานตัวหนอน แต่ด้วยลักษณะของใบที่แข็งและกระด้างจึงจำเป็นต้องมีการตัดให้สั้นอยู่เสมอ
หญ้าญี่ปุ่นขยายพันธุ์ได้โดยการปลูกเป็นกระจุก หรือปูเป็นแผ่น เติบโตได้ดีบนดินเหนียว เหมาะอย่างยิ่งที่จะเริ่มวางแปลงในฤดูหนาว หากต้องการปลูกโดยเมล็ดก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่มักไม่นิยมเนื่องจากโตช้ามาก ต้องใช้เวลานานกว่าจะหนาแน่นเต็มสนามจนสวยงาม มากกว่านั้นหญ้าญี่ปุ่นชอบแสงแดดรำไรไปจนถึงแดดจัด และต้องการน้ำมากคล้ายหญ้ามาเลเซีย ขณะเดียวกันก็ไม่ชอบที่ชื้นแฉะจนมีน้ำขัง

3. หญ้านวลน้อย (Manila Grass) หญ้าพันธุ์พื้นเมืองของไทย ที่มีลักษณะใบสีเขียวอ่อน ขนาดกลาง ให้อารณ์คล้ายกับหญ้าญี่ปุ่นแต่มีขนาดใบที่กว้างกว่า ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนังเมื่อสัมผัส มีความนุ่มนวลไม่แข็งหยาบ ทนต่อการเหยียบย่ำได้ดี ดูแลรักษาง่ายเพียงแค่รดน้ำปานกลางอย่าสม่ำเสมอ จึงเป็นที่นิยมนำมาใช้เป็นหญ้าปูสนามอเนกประสงค์มากที่สุด เช่น สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ และในสนามกอล์ฟ เป็นต้น และยังถูกใช้เป็นพืชคลุมดินเพื่อป้องกันหน้าดินพังทลายได้อีกด้วย
หญ้านวลน้อยขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วเมื่อปลูกด้วยลำต้น แม้จะมีช่อดอกที่ยาวแต่กลับให้เมล็ดน้อย จึงไม่นิยมนำเมล็ดมาปลูกเท่าไหร่นัก ทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง แต่ยังคงปรับตัวได้ดีหากต้องทนต่อน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน เติบโตได้ดีในพื้นที่โล่งแจ้งหรือที่ร่มที่แสงแดดสาดส่อง ไม่ว่าจะเป็นดินชนิดใดหญ้านวลน้อยก็สมบุกสมบันเติบโตได้ดี

4. หญ้ามาเลเซีย (Tropical Carpet) หรือหญ้าไผ่ หากยึดชื่อเรียกตามพื้นถิ่น แต่เดิมเติบโตอยู่ในสวนยางพาราทางภาคใต้ติดกับประเทศมาเลเซีย ก่อนถูกนำมาปลูกเป็นหญ้าปูสนาม ลักษณะใบใหญ่สีเขียวเข้มชัด มีลำต้นกลวงและเป็นข้อปล้อง ใบเรียบยาว ปลายแหลม ขอบใบหยักเป็นลอนคลื่น เมื่อถึงฤดูขยายพันธุ์จะมีช่อดอกย่อย 3-5 ดอก ผิวใบนุ่มไม่ทนต่อการเหยียบย่ำ
หญ้ามาเลเซียขยายพันธุ์ด้วยการแตกกอ เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกสภาพ เหมาะที่จะทำสวนสวยในบริเวณที่แดดไม่แรงมากนัก จะเป็นพื้นที่บริเวณสวนหน้าบ้าน ใต้ร่มไม้ หรือใกล้ชายคา หญ้ามาเลเซียก็ยังโตไหวด้วยน้ำปริมาณปกติ แต่หากปลูกไว้กลางแจ้งจำเป็นต้องรดน้ำให้มากขึ้นเพื่อความเขียวขจี

5. หญ้าเบอร์มิวด้า (Bermuda Grass) คือหญ้าแพรกที่เรารู้จักกันดีนี่เอง ด้วยลักษณะลำต้นที่เล็กแบน แต่แตกกิ่งก้านสาขาออกเป็นกระจุกตามลำต้น เนื้อใบค่อนข้างหยาบ ออกดอกเป็นช่อ โตเร็วจนมักลามเข้าเป็นวัชพืชรบกวนพื้นที่ต้นไม้ข้างเคียงทำให้ต้องมีการตัดแต่งอยู่บ่อยๆ แต่เพราะการแพร่กระจายง่ายได้ในทุกสภาพดิน และคงทนต่อการเหยียบย่ำ หญ้าเบอร์มิวด้าจึงได้รับความนิยมปลูกไว้ในสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง สนามกีฬา และขอบถนน เป็นต้น
หญ้าเบอร์มิวด้าขยายพันธุ์ด้วยการแตกลำต้นไปตามพื้นดิน แต่เรามักปลูกด้วยการเพาะเมล็ด และปลูกเป็นกระจุก มีชีวิตได้แม้อยู่ในสภาพแห้งแล้งและขาดน้ำ แต่หากต้องการให้หญ้ามีสภาพเขียวชอุ่มดีควรหมั่นรดน้ำให้พอเพียง งดปลูกในที่ร่ม และต้องการปุ๋ยเป็นอาหารเสริมทุก 2-3 เดือน

ปูสนามหญ้าหน้าบ้านให้สวย

ปลูกหญ้าให้งอกงาม ปลูกลานเอนประสงค์ของบ้านเป็นสีเขียว

    นอกจากเลือกสายพันธุ์หญ้าอย่างเหมาะสมกับสภาพแสงแดดที่ได้รับของแต่ละมุมของบ้านแล้ว ปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกันไปของแต่ละบ้านยังมีส่วนให้ต้องเลือกวิธีปลูกหญ้าที่เหมาะสมกับตนเองอีกด้วย

ปลูกหญ้าด้วยเมล็ด : เนื่องจากมีขั้นตอนซับซ้อนตั้งแต่การเตรียมดิน การปลูก และการอนุบาลต้นกล้า จึงไม่เป็นที่นิยมในบ้านเรามากนัก แม้จะมีราคาถูก ได้หญ้าคุณภาพดีในปริมาณมาก แต่สำหรับการปลูกเพื่อพื้นที่บ้านเพียงหนึ่งหลัง การหว่านเมล็ดดูจะเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลามากกว่าสวนจะถูกปกคลุมด้วยหญ้าอย่างสมบูรณ์
ปลูกด้วยแผ่นหญ้า : เหมาะสำหรับการขยายพันธุ์หญ้าไทเป หญ้าญี่ปุ่น หญ้านวลน้อย และหญ้ามาเลเซีย เพียงแค่เกลี่ยดินให้ได้ระดับต่ำกว่าที่ต้องการเล็กน้อย และใช้หญ้าแผ่นที่หาได้ตามร้านต้นไม้ทั่วไปมาปูลง ตามด้วยใช้ลูกกลิ้งที่มีน้ำหนักเล็กน้อยมากดทับ ปิดท้ายด้วยการรดน้ำชุ่มๆ ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ระหว่างรอยต่อของแผ่นคุณจะวางห่างสักนิดหรือชิดติดกันก็ได้ เพราะเวลาไม่นานแผ่นผืนหญ้าก็จะเติบโตและสมานเข้าหากันเอง แม้จะเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก ได้สวนสวยในพริบตา แต่เป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายสูงมากเช่นกัน
ปลูกหญ้าแบบแยกต้น : เหมาะกับหญ้าพันธุ์นวลน้อย หญ้านวลจันทร์ และหญ้าเบอร์มิวด้า ใช้ต้นทุนในการปลูกน้อยแต่ต้องอาศัยเวลาให้หญ้าค่อยๆ แผ่ขยายจนเต็มพื้นที่ ปลูกด้วยการปรับพื้นที่ให้เรียบตามต้องการ รดน้ำจนชุ่ม ฉาบทับด้วยดินเลน และแบ่งหญ้าเป็นกอเล็กๆ วางเว้นห่างพอประมาณ และกลับรากให้แน่น รดน้ำดินให้อุ้มน้ำอยู่เสมอ หลังขั้นตอนการปลูกคุณอาจต้องแบ่งเวลามากำจัดวัชพืชอยู่เป็นระยะ จนกว่าสนามหญ้าของคุณจะแผ่กระจายจนแน่นพอ

รักษาหญ้าให้เขียวขจี

รักษาหญ้าให้เขียวขจีทุกฤดูด้วยการดูแลอย่างถูกวิธี

  แสงแดดและน้ำคือองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้หญ้าบนลานบ้านของคุณสดใสเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ในช่วงแรกของการปลูกลงสนามจริงยังจำเป็นต้องรดน้ำทุกวันอย่างสม่ำเสมอในช่วงเช้า หรือเวลาที่แสงแดดอ่อนตัวลง เพื่อให้หญ้าตั้งตัวและหนาแน่นขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อหญ้าโตเต็มที่แล้วสามารถดูแลได้ตามประเภทของหญ้าได้เลย

นอกจากนี้ ควรหมั่นสังเกตแปลงหญ้าว่ามีแมลง ศัตรูพืช หรือวัชพืชเข้ามารบกวนหรือไม่ พร้อมทั้งกำจัดด้วยวิธีออแกนิกและหลีกเลี่ยงสารเคมีที่รุนแรง เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายกับคนในครอบครัวได้ สิ่งสำคัญเมื่อตกลงปลงใจเป็นอย่างดีแล้วว่าจะปลูกหญ้าคือการหมั่นดูแลตัดแต่งเป็นประจำ โดยเฉพาะฤดูฝนที่หญ้ามักเติบโตได้รวดเร็วกว่าปกติ ด้วยการตัดความยาวออกไม่เกิน 1 ใน 3 ของลำต้นเท่านั้น เพื่อไม่ให้แรงกระเทือนส่งไปถึงระบบรากและทำให้หญ้าตายได้ 

ทั้งหมดนี้คือวิธีการเลือกหญ้าแต่ละประเภทที่เรานำมาฝาก สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความสวยงามของสนามหน้าบ้าน รวมถึงวิธีการปลูกและดูแลหญ้าให้เขียวขจีอยู่เสมอ แม้การปลูกหญ้าอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ยากเกินไปหากคุณทำความเข้าใจอย่างเพียงพอ พร้อมทั้งหมั่นเอาใจใส่ดูแลอยู่ตลอด เพียงแค่นี้สนามหญ้าหน้าบ้านของคุณก็พร้อมต้อนรับแขกอยู่เสมอแล้วล่ะครับ