ในช่วงการระบาดของโควิด 19 ผู้สูงวัยนับได้ว่าเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนคนวัยหนุ่มสาว มีภูมิคุ้มกันต่ำ และโดยมากแล้วมักมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ
การป้องกันดูแลผู้ใหญ่ในบ้านให้ปลอดภัยจากโรคจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างเคร่งครัด แต่สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันก็คือการดูแลสภาพจิตใจของของพวกท่านไม่ให้เครียดและวิตกกังวลมากจนเกินไป โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงวัยที่ต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ที่ตอนนี้ไม่สามารถเข้าร่วมสังคมกับเพื่อนบ้านในชุมชนได้เหมือนเก่าก็อาจก่อให้เกิดความรู้สึกที่โดดเดี่ยวได้
วันนี้ SC sunblog นำวิธีสร้างเกราะป้องกันจิตใจให้ผู้สูงวัยหัวใจแข็งแรงมาฝากกัน ไม่ว่าเราจะอยู่ร่วมบ้านกับผู้ใหญ่ที่รักหรือไม่ก็สามารถดูแลท่านได้ด้วยวิธีดังนี้
1.ดูแลใจด้วยหลักการ 3L
หลักการ 3L ประกอบไปด้วย
Look มองหาหรือสำรวจผู้ใหญ่ในบ้านว่ามีอาการวิตกกังวล หวาดกลัว จนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้หรือไม่
Listen รับฟังพวกท่านอย่างตั้งใจ หากอยู่ด้วยกันใช้ภาษากายช่วย เช่น การสบตา จับมือ โอบกอด หรือหากอยู่คนละบ้านใช้วิธีวีดีโอคอลเห็นหน้า พูดกับท่านช้าๆ ชัดๆ ด้วยน้ำเสียงที่สงบ เพื่อให้ท่านรู้สึกอุ่นใจและบอกเล่าความรู้สึกออกมาได้อย่างเต็มที่
Link เชื่อมต่อให้การช่วยเหลือ โดยบอกข้อมูลที่ถูกต้องพร้อมวิธีป้องกันโรคให้ท่านได้รับรู้ หากไม่ได้อยู่ด้วยกันจัดเตรียมส่งยาสามัญประจำบ้านเพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมเครื่องวัดออกซิเจนไปให้ เพื่อเป็นการรับมือหากติดเชื้อก็จะได้รักษาตนเองได้อย่างทันท่วงที
2.เปลี่ยนการฟังข่าวทั้งวันให้เป็นซีรีส์ที่ท่านชอบใจ
พูดคุยให้ผู้ใหญ่เข้าใจว่าการรับข่าวสารที่มากเกินไปจะทำให้เครียดได้ง่าย ลองเจรจาให้ท่านเลือกรับฟังข่าวเพียงวันละ 2 ครั้งเท่านั้น ส่วนเวลาที่เหลือลองหาหนัง ซีรีส์ หรือ Podcast ในประเด็นที่พวกท่านชื่นชอบ เช่น รายการทำอาหาร รายการธรรมมะ สารคดีที่ย้อนกลับไปเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ หรือแนะนำซีรีส์ที่เราชื่นชอบ ก็จะช่วยคลายความเครียดในการรับข่าวสารที่มากเกินไปได้
3.หากิจกรรมที่ทำร่วมกันในครอบครัวโดยให้ผู้ใหญ่เป็นผู้ถ่ายทอดวิชา
จากผู้สูงวัยที่เคยมีกิจกรรมนอกบ้าน ได้ออกไปพบปะกับชุมชน เมื่อต้องอยู่ติดบ้านไม่ได้ออกไปไหนก็อาจรู้สึกเบื่อหน่ายและรู้สึกไม่มีคุณค่า ลองชวนให้ผู้ใหญ่ในบ้านมาทำกิจกรรมร่วมกัน โดยให้ท่านสอนสิ่งที่ท่านถนัด เช่น การทำอาหาร การปลูกต้นไม้ การซ่อมเครื่องใช้ในบ้าน เชื่อได้เลยว่าต้องทำให้ท่านรู้สึกหัวใจพองโต สนุกไปกับการใช้เวลาร่วมกัน และยังทำให้รู้สึกมีคุณค่าอีกด้วย
4.สนับสนุนและกล่าวคำชื่นชมเมื่อผู้ใหญ่ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์
หากผู้ใหญ่ในบ้านลุกขึ้นมาออกกำลังกาย หรือค้นหากิจกรรมคลายเครียดให้กับตนเองได้ เช่น การเริ่มเล่นเกม เริ่มเล่นดนตรี หรือทดลองวาดสีน้ำ เราควรสนับสนุนท่านอย่างเต็มที่ พร้อมกล่าวคำชื่นชมเสมอเพื่อให้ท่านรู้สึกว่าเป็นพื้นที่ Safe zone ที่ช่วยให้ออกจากความวิตกกังวลได้
5.เปิดใจความรู้สึกของตัวเองให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้
การที่เราต้องดูแลคนในครอบครัว ต้องทำงานหาเงินในช่วงเวลาที่ตึงเครียดแบบนี้ อาจทำให้หลงลืมไปว่าแม้เราจะดูแลให้กำลังใจผู้ใหญ่มากแค่ไหน แต่ถ้าเราเองแบกรับความเครียด ความกดดันไว้อยู่คนเดียว ความทุกข์ใจนั้นก็คงปิดไม่มิด ลองพูดคุยเปิดใจกับผู้ใหญ่ที่เรารักแบบตรงไปตรงมาเลยก็เป็นวิธีที่ดี เพราะเราเองจะได้รู้สึกโล่งใจในการได้ระบายความรู้สึกเครียดออกไป ส่วนผู้ใหญ่เองก็รู้สึกมีคุณค่า ว่าตนเองสามารถเป็นที่พึ่งพาจิตใจให้กับลูกหลานในยามที่ยากลำบากนี้ได้