เลือกบ้านที่ใช่ แบบจี๊ดจ๊าดสไตล์ LGBTQ+ ต้องมีอะไรบ้าง

‘บ้าน’ สิ่งที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะเป็นเจ้าของ กว่าจะได้มาครอบครองนั้นต้องผ่านหลายขั้นตอนกว่าจะซื้อบ้านได้สักหลัง ต้องคิดและตัดสินใจให้ดี  โดยคำนึงถึงปัจจัยสำคัญหลายส่วน  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทำเล แบบบ้าน หรือสภาพแวดล้อม ให้เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่สุด

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกที่อยู่อาศัยที่ขาดไม่ได้เลยคือ การเลือกบ้านให้ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เพราะการใช้ชีวิตของคนเรานั้นมีความหลากหลายและแตกต่างกัน สำหรับบางคนต้องการบ้านที่มีพื้นที่สำหรับทำงาน บางคนต้องการมุมอิสระในการทำในสิ่งที่รัก การได้อยู่ในบ้านที่ดี เหมาะกับผู้อยู่อาศัย ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ให้เราได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกบ้านอย่างเต็มที่ปราศจากทุกความกังวล เพื่อทำงาน หรือตามหาความฝัน ดังนั้นการเลือก ‘บ้านที่ดี’ ไม่ใช่แค่เลือกสถานที่สำหรับพักอาศัย แต่ต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของเราได้อีกด้วย

ในเดือน Pride Month นี้ SC Sunblog ขอพาชาว LGBTQ+ มาเลือกซื้อบ้านที่ทั้งดีและถูกใจ ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ LGBTQ+ ที่ที่เต็มที่ทุกเรื่องแบบ Work hard, Play harder ว่าต้องมีอะไรบ้าง ? รับรองว่าหากนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ในการเลือกบ้าน ที่ถูกใจอย่างแน่นอน

1. ทำเลที่เหมาะสม

การเลือกซื้อที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยตั้งต้น ในการเลือกที่พักอาศัยเลยก็ว่าได้ โดยมากแล้วคนมักจะค้นหาคำว่า ‘บ้าน + โลเคชั่น’ ‘คอนโด + โลเคชั่น’ ในการหาข้อมูลที่อยู่อาศัย เนื่องจากการพักอาศัยในทำเลที่เหมาะสมจะช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีได้เลยครับ โดยเฉพาะ ‘วัยทำงาน’ สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรคำนึงคือ การเดินทางไปถึงที่ทำงานได้อย่างสะดวก การมีที่พักอาศัยใกล้ที่ทำงาน โดยไม่ต้องต่อรถหลายรอบ หรือสามารถขับรถไปถึงได้ระยะเวลาไม่นาน จะช่วยลดค่าใช้จ่าย และประหยัดเวลาในการเดินทาง ให้เราสามารถเอาเวลาที่มีค่าไปใช้กับคนที่รัก ทำกิจกรรมที่ชอบได้หลากหลาย สำหรับใครที่ยังไม่เคยอยู่ในพื้นที่ที่จะซื้อที่พักอาศัย แนะนำว่าควรลองเดินทางจากบ้านไปที่ทำงานในช่วงเวลาเร่งด่วนเพื่อทราบถึงระยะเวลาและความสะดวกในการเดินทาง

นอกจากนั้น สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง คือ สิ่งอำนวยความสะดวกจำเป็นใกล้ที่พักอาศัย อาทิ โรงพยาบาล สถานที่ราชการ ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านไลฟ์สไตล์ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือสตูดิโอออกกำลังกาย เพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิตรอบบ้าน และคอนโดอย่างรอบด้าน และให้เราได้ใช้ชีวิตแบบที่ชื่นชอบได้ในทุกวันครับ 

 

2. พื้นที่ใช้สอยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย

บ้านแต่ละโครงการแต่ละแบบถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่แตกต่างกัน การจะเลือกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และรสนิยมของผู้อยู่อาศัยได้ ควรเริ่มจากสำรวจความต้องการของคนในบ้าน ไม่ว่าจะจำนวนสมาชิก ที่เป็นตัวกำหนดขนาดของบ้าน พื้นที่ใช้สอย จำนวนห้องน้ำ ห้องนอน และที่จอดรถ หากมีผู้สูงอายุ ควรเลือกแปลนบ้านที่เหมาะกับผู้สูงอายุ อย่างโครงการบ้านดีไซน์ Lanai ที่มีทางลาด เพื่อรองรับการใช้วีลแชร์หรือรถเข็นสำหรับผู้สูงอายุ โดยสามารถเชื่อมทางเดินไปยังห้องนอนชั้นล่างได้สะดวก 

ในด้านไลฟ์สไตล์ ควรมีพื้นที่สำหรับอดิเรกที่เราชื่นชอบ เช่น พื้นที่ทำสวน สำหรับคนรักต้นไม้, พื้นที่วิ่งเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด, Walk in Closet มุมเเต่งตัวสำหรับสายแฟชัน, มุมแฮงค์เอ้าท์กับแก๊งเพื่อนสำหรับสายปาร์ตี้ หรือสำหรับคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ควรมีห้องทำงานที่ดีไซน์มาสำหรับเก็บเสียง มีความเป็นส่วนตัว อยู่ห่างจากพื้นที่ส่วนกลางของบ้าน 

ในส่วนของคนที่พักอาศัยอยู่คนเดียว ควรเลือกที่พักอาศัยเป็นคอนโดขนาดเล็ก รวมถึงทาวน์โฮมที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เพื่อการความสะอาด และดูแลได้อย่างทั่วถึง

3. สภาพแวดล้อมดี สังคมคุณภาพ

อีกปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อบ้าน คือสังคมและสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพราะสภาพแวดล้อมสามารถส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้อาศัยได้เลย โดยสังคมรอบๆ ที่อยู่อาศัยมีผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเพื่อนบ้าน สภาพแวดล้อมโดยรวม ตลอดจนความปลอดภัยของโครงการ อีกทั้งการเลือกบ้านที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี อาจช่วยให้เราได้เจอกับเพื่อนบ้านที่มีไลฟ์สไตล์ตรงกับเรา ทำให้มีเพื่อนใหม่ ที่คอยแบ่งปันสิ่งดีๆ ไปด้วยกันเลยด้วยครับ

การเลือกซื้อบ้านจัดสรรจากบริษัทที่น่าเชื่อถือและโครงการที่มีชื่อเสียงก็เป็นอีกวิธีในการช่วยคัดกรองสภาพแวดล้อมและสังคมรอบๆ บ้าน ให้ได้บ้านที่มีคุณภาพ และมีบริการหลังการขายที่คอยดูแลอยู่ตลอด เช่น โครงการบ้าน Bangkok Boulevard ที่ขึ้นชื่อเรื่อง ‘สังคมดี’ เต็มไปด้วย มิตรภาพและการแบ่งปัน ตลอดจนเพื่อนบ้านคุณภาพและพื้นที่ส่วนกลางที่เหมาะสม ที่มอบชีวิตที่ดีให้กับเราได้ในทุกวัน

การเลือกสภาพแวดล้อมบ้านที่ดี เพื่อนบ้านที่ดี ก็จะทำให้การใช้ชีวิตของเรามีสุขภาพจิตที่ดีเลยครับ

4. พื้นที่ส่วนกลางสำหรับออกกำลังกายกำลังใจ

พื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ควรเลือกที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเรา ทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางแต่ละโครงการถูกดีไซน์ออกมาแตกต่างกันเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของผู้อยู่อาศัยในโครงการ 

สำหรับคนรักสุขภาพ ภาพลักษณ์และรูปร่างต้องมาเป็นที่หนึ่ง ก็สามารถใช้บริการฟิตเนส และสระว่ายน้ำของคลับเฮ้าส์ เพื่อออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ต้องไปเสียค่าสมัครฟิตเนสหรือเสียเวลาในการเดินทางไป-กลับฟิตเนส และยังเป็นโอกาสดีๆ ที่จะได้พบปะกับเพื่อนบ้านเพื่อสร้างมิตรภาพที่ดีอีกด้วย

นอกจากจะมีพื้นที่ออกกำลังกายในฟิตเนสแล้ว พื้นที่สวนส่วนกลาง ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ และสนามหญ้าสวยๆ เหมาะกับการได้วิ่ง Outdoor ทั้งยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของสมาชิกในครอบครัว สามารถจูงมือกันมาเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ที่สวนส่วนกลาง ให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน ได้ออกกำลังกายและกำลังใจกันทั้งครอบครัว

5. คลับเฮ้าส์สำหรับทำคอนเทนต์

คลับเฮ้าส์เป็นเหมือนพื้นที่ส่วนกลางที่ลูกบ้านทุกคนจะได้ใช้งาน สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการบ้านซึ่งแต่ละโครงการก็มีฟังก์ชันที่แตกต่างกันไป ควรเลือกที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ ในดีไซน์แบบที่ใช่ อย่างคลับเฮ้าส์ของ SC Asset ถูกออกแบบด้วยแนวคิด Human Centric Design ยึดความต้องการและความสะดวกสบายของลูกบ้านเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้ทุกคนได้ใช้งานพื้นที่นี้ได้อย่างเต็มที่ เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่ไม่ต่างจากบ้านหลังที่สอง

นอกจากพื้นที่ใช้สอยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์แล้ว บางคนยังเลือกโครงการบ้านจากดีไซน์ของคลับเฮ้าส์ที่โดนใจ เช่น โครงการ Bangkok Boulevard ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากเมืองสุดคลาสสิค ให้ความรู้สึกร่มรื่น เหมือนอยู่บ้านพักตากอากาศที่ไม่ไกลจากเมือง คงถูกใจสายโซเชียลไม่น้อย เพราะให้คุณเลือกทำคอนเทนต์ แบบไม่ซ้ำได้ทุกวัน