ไม่ใช่แค่ช่วง Work From Home ที่ค่าไฟจะพุ่ง แต่หน้าร้อนนี่แหละ ที่ทำเอาค่าไฟสูงปรี๊ดจนเครียด เลยทีเดียว สาเหตุหลักๆก็มาจากการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแอร์แบบทั้งวันทั้งคืนนั่นเอง จะมีวิธีไหนบ้างที่ช่วยประหยัดค่าไฟ แต่อากาศในห้องยังเย็นอยู่หรือจะปรับลดการใช้ไฟในอุปกรณ์อะไรดี วันนี้ SC Asset มีคำตอบมาแชร์ครับ
ล้างแอร์ทุกตัวในบ้าน
รู้หรือไม่ว่าการล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอนั้นช่วยให้แอร์ไม่ทำงานหนักจนเกินไป ก็ส่งผลให้ค่าไฟลดน้อย ลงด้วย โดยอาจจะล้างแผ่นกรองทุก ๆ 1 เดือนและเรียกช่างแอร์มาล้างภายในทุก 6 เดือนเพื่อให้พวกฝุ่น หรือแบคทีเรียไม่เกาะอยู่บริเวณแผงคอยด์เย็นมากเกินไป นอกจากค่าไฟจะลดลงแล้ว แอร์ยังเย็นขึ้นอีกด้วย
เปิดพัดลมระบายความร้อนในห้องก่อนเปิดแอร์
อากาศร้อนๆที่สะสมมาตั้งแต่บ่ายอาจทำให้ห้องนอนของคุณร้อนกว่าปกติ ดังนั้นวิธีที่จะช่วยลดการทำงาน ของแอร์ คือการเปิดพัดลมเพื่อระบายความร้อนภายในห้องออกไปก่อนที่จะเปิดแอร์ นอกจากห้องจะเย็นเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยให้แอร์ไม่ต้องเร่งทำความเย็นจนทำงานหนักมากเกินไปอีกด้วย
ลดการใช้เครื่องทำน้ำร้อน
เครื่องทำความร้อนในห้องน้ำกินไฟเป็นอันดับต้นๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้าเลยทีเดียว ดังนั้นในเมื่ออากาศก็ร้อนอยู่แล้ว หันมาอาบน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติช่วงหน้าร้อนนี้ ก็จะช่วยประหยัดไฟได้หลายบาทเลยครับ
เปิดแอร์ที่ 25 องศา
อุณหภูมิ 25 องศา เป็นเหมือนอุณหภูมิกลางๆ ที่เหมาะกับอากาศของประเทศไทย แต่หากสามารถเพิ่มอุณหภูมิขึ้นได้อีก 1 องศา การเพิ่มอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ 1 องศาเซลเซียส ก็จะสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 10% ต่อปี
ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น
หากมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือปิดไว้แต่อยู่ในโหมด Stand by ก็แนะนำให้ปิดสวิตช์ หรือดึงปลั๊กออกเลย เพราะเมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ในหมวด stand by แต่ตัวเครื่องเองก็มีไฟเลี้ยงเพื่อรอการรับคำสั่งเช่นกัน ถ้าอยากประหยัดไฟ การดูแลในส่วนนี้ก็ช่วยได้ครับ
เปลี่ยนหลอดไฟในบ้านเป็นหลอด LED
ไฟ LED เป็นไฟที่ใช้พลังงานน้อย แต่ให้ประสิทธิภาพในการส่องสว่างสูง แถมยังมีอายุการใช้งานเฉลี่ยถึง 15,000 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดย LED นั้นประหยัดไฟมากกว่าหลอดหลอดใส้ 10 เท่า และมากกว่าหลอดตะเกียบ หรือฟลูออเรสเซนต์ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว ใกล้จะเข้าหน้าร้อนแล้ว มาป้องกันค่าไฟที่จะพุ่งสูงขึ้นในช่วงเวลานี้ของปี ด้วยเทคนิควิธีต่อไปนี้ รับรองว่าได้ผลแน่นอนครับ