ภูมิทัศน์ใหม่ของคน กทม. (โครงการที่ กทม ปรับปรุงพื้นที่ )

เมื่อปีที่แล้ว จนถึงต้นปีนี้ เราเห็นการปรับภูมิทัศน์ของกรุงเทพฯ ตามแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ระยะ 20 ปี กันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคลองโอ่งอ่าง การปรับพื้นที่คนเดินเท้าที่ถนนข้าวสาร ถนนรามบุตรี ถนนพระราม 1 เป็นต้น ซึ่งในปีนี้จะมีการต่อยอด เพื่อปรับภูมิทัศน์ใน 5 ย่านกว่า 10 โครงการ จะมีอะไรบ้าง ไปอัพเดตกันเลย

ทางเท้า

จากพื้นที่ทางเท้าต้นแบบของถนนพระราม 1 ไปจนถึงแยกราชประสงค์ นั้นเป็นทางเท้าที่สร้างขึ้นมาสร้าง ความปลอดภัยให้คนเดินเท้าอย่างเท่าเทียม โดยให้ทั้งคนปกติและผู้พิการสามารถใช้เส้นทางเท้านี้ ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งกทม. มีการร่วมมือกับนักออกแบบภูมิสถาปัตย์ สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย และสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย โดยจะมีโครงการอีกมามายที่จะเกิดขึ้นต่อยอดไปจากโครงการต้นแบบ ดังนี้

  1. ย่านศูนย์กลางธุรกิจ อย่างเช่น ถนนสาธรและคลองสาธร และถนนสีลม
  2. ย่านเมืองเก่า บริเวณวงเวียนโอเดียน คลองผดุงกรุงเกษม และสวนล่างสะพานพระปกเกล้า
  3. ย่านธนบุรี ณ ถนนบรมชนนี
  4. ย่านเศรษฐกิจใหม่ ที่ถนนสุขุมวิท และถนนราชดำริ แยกอโศก
  5. ย่านนวัตกรรมและศูนย์การแพทย์ เช่น ย่านอนุเสาวรีย์ฯ

สวนและพื้นที่ทำกิจกรรม

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สวนและมีการปรับปรุงพื้นที่ทำกิจกรรมของคนกรุงเทพอย่าง การปรับคลองหลายสายให้เพิ่มมากขึ้น เช่น ครองผดุงกรุงเกษม คลองบางลำพู คลองหลอดและคลองลาดพร้าว

นอกจากนี้ยังมีโครงการใหญ่ นั่นก็คือ ‘โครงการสะพานเขียว’ ที่จะเชื่อมระหว่างสวนเบญจกิติกับสวนลุมพินี โดยเป็นการร่วมมือกับระหว่างนักออกแบบระดับประเทศ เพื่อพัฒนาให้บริเวณนี้กลายเป็นแลนด์มาร์ก ที่สำคัญ เป็นแหล่งท่องเที่ยงของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเป็นการร่วมมือกับระหว่าง กทม. กับศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) และภาคีสถาปนิกอีกหลายเจ้า

โดยจะมีการสร้างแลนด์มาร์กเพิ่มอีกสองแห่ง ได้แก่ บริเวณสะพานลอยข้ามแยกสารสินและ ทางลอยฟ้าทางพิเศษเฉลิมมหานคร มีการออกแบบพื้นที่ตามหลัก Universal Design คือเหมาะกับ ทุกเพศทุกวัย รวมทั้งผู้ใช้รถเข็นวิลแชร์ทุกคนด้วย ติดตั้งไฟให้แสงสว่างเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ หรือเหตุร้ายทั้งหลาย รวมท้ังปรับปรุงสภาพเน่าเสียของคลองโดยรอบด้วย

เห็นโครงการดีๆ แบบนี้แล้ว น่าดีใจแทนคนกรุงเทพฯ ที่นอกจากจะมีทัศนียภาพของเมืองท่ีสวยงามแล้ว ยังได้ใช้งานทางเท้าที่มีประสิทธิภาพ และได้มีพื้นที่สวนสาธารณะไว้พักผ่อนหย่อนใจได้เพิ่มขึ้นมาอีกที่หนึ่ง