แม้ว่าประเทศไทยจะมีอากาศร้อนตลอดทั้งปี แต่ช่วงก็จะมีช่วงฤดูร้อนที่ร้อนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเดือนเมษายนบริเวณประเทศไทย มีดวงอาทิตย์อยู่เกือบตรงศรีษะในเวลาเที่ยงวัน ทำให้ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์เต็มที่ ซึ่งการที่ร่างกายอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่อุณหภูมิสูงและได้รับความร้อนมากเกินไปอาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเรา หากรุนแรงอาจถึงขั้นเกิดฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดดได้
หากจะอาศัยเพียงพลังของห้องแอร์ไม่พอ (แถมยังทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเกินไปด้วย) SC Sunblog ขอชวนทุกคนมาดูวิธีดับร้อนแบบง่าย ๆ แบบไม่ต้องพึ่งแอร์อย่างเดียว ที่ช่วยให้เรามีชีวิตรอดจากหน้าร้อนนี้แถมยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยครับ
- เติมน้ำเพื่อรักษาความชุ่มชื้น
แม้จะฟังดูเป็นวิธีที่เรียบง่าย การเติมน้ำให้ตัวเองเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดในการทำให้ร่างกายเย็นลง เพราะอากาศร้อนทำให้เราสูญเสียน้ำในร่างกายจากเหงื่อ จนทำให้ร่างกายเกิดอาการขาดน้ำ การดื่มน้ำจึงเป็นวิธีที่จะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ท่ามกลางอากาศร้อน ๆ แบบนี้ รู้แบบนี้แล้วอย่าลืมพกน้ำดื่มติดตัวไปด้วยเสมอ และหมั่นจิบน้ำตลอดเวลากันนะครับ
Tips! การดื่มน้ำอุณหภูมิห้องถือว่าเพียงพอกับการเติมความชุ่มชื้นให้กับร่างกายแล้ว ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำเย็นจัดก็ได้
2. อาบน้ำระหว่างวันเติมความสดชื่น
เติมความชุ่มชื้นให้ภายในร่างกายกันไปแล้ว มาเติมความชุ่มชื้นให้กับภายนอกร่างกายกันบ้าง เป็นอีกหนึ่งวิธีแสนง่ายที่จะช่วยให้เราสดชื่นขึ้นได้ในอากาศที่ร้อนจัดแบบนี้ แม้การอาบน้ำบ่อยจะเป็นการใช้ทรัพยากรน้ำที่มากขึ้นหน่อย แต่การอาบน้ำเย็น ๆ นี่แหละ จะช่วยลดอุณหภูมิร่างกายได้ดีเลยครับ
Tips! การเลือกใช้สบู่สูตรเปปเปอร์มินต์จะช่วยเพิ่มความเย็นสดชื่นขึ้นได้อีกด้วย
3. เลือกสวมเสื้อผ้าวัสดุจากธรรมชาติ
เสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุจากธรรมชาติเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับอากาศร้อนแบบนี้ ผ้าธรรมชาติ ที่มีเนื้อผ้าบางเบา ใส่แล้วสบาย อย่าง ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน และผ้าไหม สามารถระบายอากาศและช่วยซับเหงื่อได้อย่างดี ทำให้ร่างกายเรารู้สึกเย็นขึ้น นอกจากนี้การเลือกซื้อเสื้อผ้าที่เส้นใยที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ คงทนถาวร สามารถใส่ได้นาน ๆ ก็ยังสามารถช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วยนะครับ
Tips! การเลือกใส่เสื้อผ้าสีอ่อนยังช่วยสะท้อนแสงแดดและลดปริมาณความร้อนที่ร่างกายดูดซึมได้ดีอีกด้วย จากผลของการทดลองล่าสุดโดยนักวิจัยญี่ปุ่นที่นำเสื้อไว้กลางแดด เพื่อพิสูจน์ว่าสีไหนใส่แล้วร้อนน้อยที่สุด พบว่า สีขาวและสีเหลือง คือสีที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุด รองลงมา คือ สีเทา สีแดง สีม่วงและสีน้ำเงิน ส่วนสีที่มีความร้อนสูง ได้แก่ สีเขียวอ่อน สีเขียวเข้ม และสีดำ คือ สีที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดครับ รู้แบบนี้แล้วอย่าลืมเลือกสีเสื้อให้เข้ากับสภาพอากาศก่อนออกจากบ้านกันนะครับ
4. ลดอุณหภูมิร่างกายด้วยไอเท็มให้ความเย็น
การใช้ไอเท็มให้ความเย็น อาทิ ผ้าเย็น หรือ สเปรย์เย็นก็เป็นไอเดียดับร้อนให้ร่างกายได้อย่างดี หรือหากใครอยากหาไอเท็มที่ใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด ลดขยะมากที่สุด แนะนำให้ใช้ไอเท็มที่มีในบ้านอยู่แล้ว อย่าง น้ำแข็งใส่ผ้าขนหนูมาประคบตามข้อมือหรือพาดคอ จะช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายลงได้ไวยิ่งขึ้น เพราะจุดชีพจรเหล่านี้ คือ บริเวณที่หลอดเลือดอยู่ใกล้กับผิวหนังที่สุดครับ
5. ทานของเย็นเพิ่มความสดชื่น
นับเป็นความโชคดีของไทยที่อยู่ในประเทศเมืองร้อนอยู่แล้ว ทำให้การหาทานผลไม้ หรือเครื่องดื่มดับร้อนเป็นเรื่องง่าย ด้วยการเลือกทานผลไม้ที่มีน้ำค่อนข้างเยอะ อาทิ แตงโม แคนตาลูป สัปปะรด มะพร้าว ช่วยเติมน้ำให้ร่างกายของเรา ทำให้ร่างกายเย็นสดชื่นขึ้นได้อย่างดี หรือจะเลือกทานเป็นขนม เครื่องดื่มแช่แข็ง อย่างไอศครีม ขนมหวานเย็น (อ่าน 5 เมนูดับร้อน ทำง่ายๆได้ที่บ้าน) ก็จะช่วยให้ร่างกายเย็นลงได้ ณ ขณะนั้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด ควรทานแต่พอดี เพราะอาจทำให้ปริมาณน้ำตาลในร่างกายสูงได้ง่าย ๆ เลยนะครับ
Tips : เลือกทานผลไม้ตามฤดูกาลที่มีอยู่ในชุมชน หรือปลูกในไทย เป็นวิธีง่าย ๆ แต่เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม เพราะจะช่วยลดปริมาณคาร์บอนจากการขนส่งได้อย่างมากเลยครับ
5 วิธีดับร้อน พร้อมทริครักษ์โลกที่ SC Sunblog รวบรวมมาฝากทุกคน ทำให้เห็นว่าการจะทำให้ร่างกายได้คลายร้อนได้นั้นไม่จำเป็นต้องเบียดเบียนสิ่งแวดล้อมเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมากเลย หวังว่าหน้าร้อนปีนี้ทุกคนจะได้เพลิดเพลินไปกับฤดูร้อนแบบสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันนะครับ