เลือกบ้านแบบคนไม่รู้วัสดุ เลือกยังไงดี?

รู้หรือไม่ คนรุ่นใหม่ในช่วงวัย 22-29 ปี ให้ความสำคัญกับงานดีไซน์และการก่อสร้างมากกว่าช่วงอายุอื่น ทำให้บ่อยครั้ง บ้านของคนรุ่นใหม่ก็จะมีการตกแต่งภายในที่พิถีพิถันมากเป็นพิเศษ

แต่อย่างที่รู้กันในช่วงวัยนี้ เรื่องวัสดุก่อสร้างยังเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว เราไม่รู้กันเลยว่าวัสดุที่เรียกว่า ผนังเบา ? ผนังก่ออิฐ แบบไหนต่อเติมได้ ? หรือแม้แต่สีทาภายในยังมีดีเทลยิบย่อยเต็มไปหมด ซึ่งเรื่องนั้นก็คงไม่ใช่ปัญหา ถ้าเราหาสถาปนิกหรืออินทีเรียชั้นดีมาคอยให้คำแนะนำ

แต่หากเรายังไม่มีพาร์ตเนอร์แต่งบ้านคู่ใจ แล้วอยากมีบ้านสวย คุณภาพดี โดยไม่มีความรู้เรื่องวัสดุ จะเริ่มต้นจากอะไร ?

อับดับแรก เราอาจจะเลือกจาก “ฟังก์ชัน”

เริ่มต้นเลย เราลองเลือกที่พักอาศัยจากฟังก์ชันที่เราต้องการ เช่น ชอบความสงบ, ชอบพื้นที่โล่ง หรือแม้แต่ชอบการปาร์ตีกับเพื่อน ๆ ก็อาจจะเลือกห้องเน้นพื้นกว้างเก็บเสียงได้ ที่สามารถรวมตัวคนได้เยอะ และไม่รบกวนผู้อื่น

ซึ่งความชอบหรืออุปนิสัยของเราเบื้องต้นนี่เอง ที่เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายว่าเราต้องการบ้านแบบไหน โดยไม่ต้องให้ความสนใจในเรื่องของวัสดุเลย แม้แต่นิดเดียว และหากเราเลือกหาโครงการบ้านที่ดี มีบริการและผู้ขาย คอยแนะนำและให้ความรู้กับเราตามสเป็กฟังก์ชันที่เราสนใจ เราก็สามารถได้บ้านที่เหมาะสมและตรงใจเราได้

ต่อมา หาคำตอบจาก “ผู้รู้จริง” 

บางครั้งความรู้เรื่องวัสดุคุณภาพดี เราก็ไม่จำเป็นต้องเรียนจบด้านนั้นโดยตรงเสมอไป เพราะในบางครั้งคนที่รู้ลึกรู้จริงเรื่องวัสดุ อาจจะมาจากคนที่มีประสบการณ์ใช้วัสดุนั้นจริงๆ มากกว่า ดังนั้นการที่เราถามข้อมูลจากผู้ใช้จริง ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ทำให้เรามีข้อมูลพื้นฐานในการสร้างบ้าน ก่อนที่จะไปปรึกษาสถาปนิกหรือผู้รับเหมาในลำดับถัดไป

ซึ่งคำแนะนำจากผู้ใช้จริงเหล่านี้ เราก็สามารถหาได้ตามกลุ่มในเฟซบุ๊ก หรือแม้แต่เว็บบอร์ดพันทิป ก็มีห้องสำหรับคุยเรื่องที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะ อย่างห้อง “ชายคา” โดยพื้นที่เหล่านี้ มักจะมีผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับบ้าน, วัสดุ, อุปกรณ์ก่อสร้าง, ราคา รวมทั้งยังมีการเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ของวัสดุแต่ละแบรนด์ให้กับเราเบื้องต้นอีกด้วย เช่น บางคนต้องการความช่วยเหลือเรื่อง “วัสดุที่ไม่ทำให้บ้านร้อน” ก็จะมาตั้งคำถามในกลุ่มและสถาปนิก, วิศวกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ ก็จะมาคอยแนะนำวัสดุ และตอบคำถามคลายข้อสงสัย 

แต่หากการถาม-ตอบยังเห็นภาพไม่ชัดเจน ก็ยังมีช่อง YouTube ของสถาปนิกหลายคน ที่นอกจากพาไปชมบ้านที่ Build-in สวย ๆ แล้ว ยังให้ความรู้เรื่องงานออกแบบ การจัดเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่วัสดุชิ้นไหนบ้างที่เหมาะกับแบบบ้านในฝัน ทำให้คอนเทนต์แต่งบ้านที่ดูเข้าใจยาก กลายเป็นเรื่องให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายขึ้น

เดอะ เจนทริ พัฒนาการ (The Gentry Phatthanakan)

และอย่างสุดท้ายคือ “เลือกบ้านจากแบรนด์ผู้พัฒนา” 

แบรนด์บ้าน เป็นอีกองค์ประกอบที่สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากแบรนด์บ้านที่ดี สามารถช่วยการันตีคุณภาพวัสดุอุปกรณ์ที่โครงการเลือกใช้ได้ ซึ่งแม้จะมีเอกลักษณ์และสไตล์เปลี่ยนไปตามทำเลที่ตั้งของโครงการ 

แต่แปลนบ้านของทุกโครงการจะต้องตรงตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ และแบรนด์บ้านที่ดีก็ควรมีมีบริการ “ประกันโครงสร้างบ้าน” ไว้รับประกัน หากเกิดกรณีเสียหาย โดยประกันโครงสร้างบ้าน ก็คือ หลักประกันความปลอดภัยและคุณภาพของบ้าน สำหรับเอาไว้เรียกร้อง หากเราต้องการซ่อมแซ่มสิ่งปลูกสร้างภายหลัง โดยที่ทางโครงการจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดตามสัญญาที่ทำไว้ 

นอกจากวัสดุก่อสร้างแล้วแบรนด์บ้านยังครอบคลุมไปถึง ทำเลที่ตั้งและระบบความปลอดภัยอีกด้วย ซึ่งปัจจัยสภาพแวดล้อมเหล่านี้เองที่ส่งผลถึงความมั่นคงของบ้านในระยะยาว การที่เรารู้ข้อมูลพื้นฐานก็จะช่วยให้เราคุยกับอินทีเรียได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้เราประเมินราคาวัสดุเบื้องต้นได้อีกด้วย ทำให้ไม่ต้องพลาดกลอุบายของการถูกโกงสเปกวัสดุ 

แม้ปัจจุบันเราจะสามารถหาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างได้เองบนโลกออนไลน์ แต่การที่เราได้รับวัสดุคุณภาพดี ที่มาพร้อมกับแบรนด์บ้านตั้งแต่ต้น ก็ถือเป็นทางลัดที่ดีสำหรับคนที่ไม่ต้องการเรียนรู้เองทั้งหมด รวมทั้งยังช่วยการันตีความมั่นคงของบ้านในระยะยาวได้อีกด้วย  

References: